เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ไปร่วมวงสนทนาในงาน "Fail ศาสตร์ : อายุน้อยร้อยล้ม" ที่ Hubba co-working space มา รูปแบบของงานนี้ก็ตามชื่อเลยครับ คือ ผู้ที่มาร่วมงานนี้จะเอาเรื่องราวความล้มเหลวในชีวิตการทำธุรกิจสตาร์ทอัพมาเล่าให้ผู้ร่วมงานคนอื่นๆฟัง โดยส่วนตัวผมอยากเห็นงานรูปแบบนี้ในไทยมานานแล้วเพราะปกติเวลาเราไปงานหรือสัมมนาต่างๆ เรื่องที่เราจะได้ฟังส่วนใหญ่คือเรื่องราวความสำเร็จของนักธุรกิจ แต่ในชีวิตจริงทุกคนล้วนมีเวลาที่ต้องฝ่าฝันความท้าทายต่างๆที่ถาโถมเข้ามาและหลายๆครั้งเราก็ทำผิดพลาดไป การที่ได้ฟังประสบการณ์ของคนอื่นในมุมนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตัวเรา ทำให้เราหลีกเลี่ยงความผิดพลาดเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องไปประสบเอง 
     และนี่คือสรุปใจความสำคัญที่ผมได้มาจากการร่วมวง สนทนาในงานนี้ครับ

  1. การเลือกพาร์ทเนอร์ในการทำธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญมาก บางคนเจอพาร์ทเนอร์กินแรง มีชื่อในบริษัทแต่ไม่เข้ามาช่วยทำงานเลย สุดท้ายธุรกิจก็ล่มไป
  2. เรื่องเป้าหมายของการทำธุรกิจ เป็นเรื่องที่ต้องคุยกับเพื่อนๆที่เข้ามาร่วมก่อตั้งธุรกิจให้เข้าใจกันก่อนตั้งแต่แรก ถ้าหากมีเป้าหมายที่ต่างกัน เช่น คนหนึ่งมองว่าจะสร้างธุรกิจไประดับโลกแต่เพื่อนร่วมทีมอีกคนมองว่าแค่มีธุรกิจพออยู่ได้ในไทยก็พอแล้ว ต้องคุยและทำความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาภายหลังได้
  3. ถ้าอยากทำธุรกิจของตัวเอง ให้ลงมือทำไปเถอะ ถึงพลาดก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่จะช่วยให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในอนาคต
  4. เรื่องเงินหรือเรื่องสัญญาทางกฎหมายต่างๆอาจสร้างความลำบากใจในการพูดคุยบางครั้ง แต่คุณต้องคุยให้จบ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาใหญ่ในภายหลัง
  5. การทำธุรกิจร่วมกับผุ้ใหญ่หรือคนที่โปรไฟล์ดีมีชื่อเสียงไม่ได้การันตีความสำเร็จของธุรกิจเสมอไป ให้ดูดีๆก่อนที่จะทำธุรกิจร่วมกับใคร
  6. คำพูดเป็นสิ่งสำคัญ ระมัดระวังการใช้คำพูดกับเพื่อนร่วมงานของคุณ การพูดจาเชือดเฉือนใจกันอาจเป็นสาเหตุของความล้มเหลวในการทำธุรกิจได้
  7. การขายงานกับลูกค้า บางครั้งเนื้องานก็ไม่สำคัญเท่าใครเป็นคนนำเสนอ บางคนขายงานแทบตายลูกค้าไม่ซื้อ แต่พอมีผู้ใหญ่มาช่วยนำเสนอให้กลับผ่านฉลุยทั้งๆที่เนื้อหาในการนำเสนอเหมือนกันเป๊ะ
  8. การเป็น Business person ที่ดีใช่ว่าจะต้องลุยทำธุรกิจไม่ลืมหูลืมตา ประเมินสถานการณ์รอบตัวก่อนว่าจังหวะไหนควรลุยจังหวะไหนควรเลิก
  9. If you want to go fast, go alone. if you want to go far, go together. : คนเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นคนมีความสามารถ ทำงานเร็วมากจนบางครั้งพาร์ทเนอร์หรือลูกทีมทำงานตามไม่ทัน ลดความเร็วลงบ้าง ช่วยประคับประคองผลักดันคนรอบข้างให้เก่งขึ้นไปพร้อมๆกัน ท้ายที่สุดธุรกิจของคุณจะไปได้ไกล
  10. ให้ระมัดระวังการตีความคำว่า “Fail” เอาไว้ให้ดี หลายครั้งเราได้ยินคำพูดที่ว่า “Fail fast, succeed faster.” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องคาดว่าจะต้องทำเพื่อให้ล้มเหลวเสมอไปเพราะมันจะทำให้คุณไม่มีพลัง ทุกครั้งคุณควรจะคิดว่าคุณจะทำเพื่อให้สำเร็จ แต่ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็นับว่ามันเป็นแค่บทเรียนบทหนึ่งก็เท่านั้นเอง  
  11. การเมืองทั้งในและนอกบริษัทไม่ส่งผลดีเลย ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
  12. ความรู้ทางด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญ การบริหารการเงินไม่ดีทำให้เกิดสถานการณ์เดือนชนเดือน ถึงขั้นจ่ายเงินเดือนลูกน้องช้าได้
  •      คำคมทิ้งท้ายสำหรับงานนี้

  1. "ในวันที่คุณชนะ อย่าลืมว่าคุณเคยแพ้มาก่อน แล้วคุณจะชนะได้อย่างต่อเนื่องต่อไป" - อาจารย์มิ่งมหา
  2. "เราไม่ได้มองว่าปัญหาคือความล้มเหลว เราเป็นโปรแกรมเมอร์ ถ้าเราเจอบั๊ก เราก็ต้องดีบั๊ก ก็เท่านั้น" - คุณมิว Instaprinta
  3. "คนที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้คือคนที่พร้อมที่จะลุย กล้าที่จะล้ม ถึงรู้ว่าจะล้มก็ยังคงลุยเพื่อความสำเร็จที่รออยู่" - อาจารย์ฟิล์ม  
  4. "เราต้องรู้จักรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง ความล้มเหลวของเราเอง นั่นคือสิ่งที่จะทำให้เราเติบโตต่อไป" - คุณโบ๊ท Figabyte
  5. "คนเราถ้าไม่กลัวเรื่องความล้มเหลว โลกนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว" - อาจารย์โท
  6. "ผู้ใหญ่บางคนกล่าวเอาไว้ว่าบางทีเราไม่ต้องล้มเองก็ได้ เรียนรู้จากความล้มเหลวของคนอื่น" - คุณคิว Locaze
  7. "การมี Passion ร่วมกันเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตก้าวไปข้างหน้า" - คุณเอม Hubba
  8. "เราต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรไปต่อ เมื่อไหร่ที่ควรหยุด" - คุณชาร์ล Hubba
  9. ความเฟลจริงๆแล้วไม่ได้มีตัวตน ขึ้นอยู่กับว่าจะให้นิยามของมันอย่างไรก็เท่านั้นเอง - อาจารย์แคลร์
สำหรับเพื่อนๆที่อ่านแล้วสนใจอยากติดตามข่าวของงาน Fail ศาสตร์ว่าจะจัดครั้งต่อไปเมื่อไร ติดตามได้ที่กลุ่ม Facebook ของงานเลยครับ
คัดลอกมาจาก http://ojazzy.tumblr.com/post/65239372755/failsard
ต่อไป
นี่เป็นบทความเก่าที่สุด.
บทความที่เก่ากว่า

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

กดที่รูป อีโม แล้วก๊อปปี้ ลงที่คอมเม้นของคุณ